วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินซีได้เอง จึงต้องได้รับจากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม วิตามินซีมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายหลายประการ เช่น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น รักษาสุขภาพผิวพรรณ บำรุงผมและเล็บ เป็นต้น
อนุมูลอิสระคืออะไร
อนุมูลอิสระ คือ โมเลกุลที่มีอิเล็กตรอนอิสระอยู่ 1 ตัว อิเล็กตรอนอิสระนี้อาจไปจับกับโมเลกุลอื่นๆ ในร่างกาย ทำให้โมเลกุลเหล่านั้นสูญเสียอิเล็กตรอนไปบ้าง ส่งผลให้โมเลกุลเหล่านั้นกลายเป็นอนุมูลอิสระเช่นกัน กระบวนการนี้เรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่
อนุมูลอิสระอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น มลภาวะ รังสี UV การสูบบุหรี่ และอาหารบางชนิด
ประโยชน์ของวิตามินซีในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินซีสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระได้ โดยวิตามินซีจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระโดยตรง หรือจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระทางอ้อมก็ได้
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระโดยตรง
วิตามินซีสามารถบริจาคอิเล็กตรอนให้กับอนุมูลอิสระได้ ส่งผลให้อนุมูลอิสระสูญเสียอิเล็กตรอนไป และกลายเป็นโมเลกุลที่ไม่มีอันตราย
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทางอ้อม
วิตามินซีสามารถช่วยเพิ่มการผลิตกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง
การวิจัยเกี่ยวกับวิตามินซีและอนุมูลอิสระ
มีการศึกษาเกี่ยวกับวิตามินซีและอนุมูลอิสระจำนวนมาก การศึกษาบางชิ้นพบว่า การรับประทานวิตามินซีเสริมอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์
ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับ
ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ดังนี้
- ผู้ชาย 90 มิลลิกรัม
- ผู้หญิง 75 มิลลิกรัม
แหล่งอาหารที่มีวิตามินซีสูง
แหล่งอาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ส้ม สตรอว์เบอร์รี กีวี มะละกอ มะนาว มะขามป้อม ผักคะน้า ผักบุ้ง พริกหวาน เป็นต้น
ข้อควรระวังในการรับประทานวิตามินซี
การรับประทานวิตามินซีเสริมในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เป็นต้น
แนะนำ วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี
สรุป
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ การรับประทานวิตามินซีเสริมในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้
บทความอื่นๆ